สำหรับในวัยเด็กคงมีคนเคยถามเราทุกคนว่าอยากเป็นอะไรหากโตขึ้น
คำถามในเชิงแบบนี้เป็นคำถามที่อยากทราบความในใจของเด็กว่าพวกเขามีความคิดอย่างไร เพราะหากเด็กตอบมาเราก็จะรู้ความคิดของพวกเขานั่นเอง ซึ่งเด็กๆมักจะมีการตอบที่มีความหลากหลายที่มีความต่าง สำหรับเด็กหญิงนั้นก็จะมีการพูดถึงหมอสะส่วนมากซึ่งก็มีในบางคนที่ตอบต่างจากคนอื่น ว่าต้องการที่จะเป็นครูบ้างและต้องการเป็นแอร์โฮสเตทบ้าง
หากเป็นเด็กผู้ชายก็มีความต้องการที่จะเป็นตำรวจบ้าง ทหารบ้าง ซึ่งเด็กสมัยนี้ก็ยังมีตอบที่แหวกแนวกว่าสมัยก่อนด้วย เพราะมีคนตอบว่าต้องการที่จะเป็น นักฟุตบอล
ซึ่งยุคนี้เป็นยุคที่มีการนิยมเล่นกีฬากันมากซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นที่นิยมในทุกผู้ทุกคนเล่นซึ่งนอกจากเด็กๆก็ยังมีวัยรุ่นและวัยทำงานที่มีความชื่นชอบไม่แพ้กัน
เราสามารถยึดกีฬาฟุตบอลเป็นอาชีพหลักได้
เราอาจจะมองเห็นในช่วงเวลานี้พ่อแม่ของเด็กๆมักจะนำลูกไปเพื่อเล่นออกกำลังกายโดยหัดเล่นเตะบอลกัน ไม่ใช่แค่การออกกำลังกายเท่านั้นแต่เป็นการฝึกในด้านต่างๆอีกด้วย แต่สำหรับบางคนก็เป็นการสอนเพื่อให้เด็กมีความชำนาญเพื่อเป็นพื้นฐานหากชื่นชอบในการเป็นนักกีฬาระดับชาติ
หากมีการย้อนไปในสมัยโบราณกีฬาประเภทนี้สามารถทำเป็นได้แค่อาชีเสริมเพียงเท่านั้น ซึ่งสำหรับคนที่อยากเป็นนั้นจึงไม่นิยมเล่นเป็นงานหลักกันเลย สาเหตุก็น่าจะเป็นว่ากลัวจะตกงานในอนาคตนั่นเอง
ซึ่งต่อมาที่เข้ามาสู้ยุคปัจจุบันมีความคิดเปรี่ยนไปจากเดิมซึ่งมีคนหันมาเตะบอลและได้เงินค่าตัวร่วมแสนบาท ซึ่งจะว่าไปแล้วนักเตะที่เป็นชื่อดังเตะในลีกดังๆก็มีรายได้เกือบแสน ในขณะที่บางคนเป็นแสน ซึ่งหากมีการเตะที่ก้าวหน้ากว่าเดิมเงินที่ได้ก็จะเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมขึ้นไปอีกด้วย ดังนั้นหากมีการเปรียบเทียบกับเงินที่ทำงานพวกพนักงานเงินเดือนการเล่นฟุตบอลถือว่าได้เงินที่ดีกว่า
สำหรับการเป็นนักฟุตบอลนั้นถือว่าเป็นอาชีพหนึ่งซึ่งสถาบันต่างๆก็พากันยอมรับโดยมีการที่นำเอกสารว่าเป็นนักฟุตบอลของลีกไหนไปยื่นกู้ได้ด้วยนะ ถือได้ว่าเป็นการทำงานอีกรูปแบบหนึ่งที่สถาบันต่างๆออกมายอมรับเลยแหละ
แต่ก็ยังมีกลุ่มคนที่มองว่านักฟุตบอลเป็นแล้วมันก็ดีแต่หากมีการเลิกเตะแล้วจะไปทำอะไรได้ซึ่งเราก็เถียงไม่ได้กับความคิดของคน